![]() | |
article.wn.com |
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือเป็นจังหวัดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ รองจากจังหวัดระยอง และ จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่งได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) และนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร และยังมีเขตประกอบการอุตสาหกรรม 2 แห่ง ได้แก่เขตประกอบการอุตสาหกรรมในวังน้อย และเขตประกอบการสวนอุตสาหกรรมโรจนะ
อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคม ทำให้การเดินทางชิงพาณิชย์และการท่องเที่ยวสะดวกทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และทางเรือ มีผู้ประกอบการจัดตั้งโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตร คลังสินค้าขนาดใหญ่ ห้องเย็น และกิจการโรงสี ในจังหวัดจำนวนมาก เพื่อจัดเก็บสินค้าและแปรรูปสินค้าเพื่อส่งไปยังกรุงเทพมหานคร และส่งออกไปต่างประเทศ
รวมทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ โดยมีเนื้อที่ 1,810 ไร่ ตั้งอยู่ภายในเกาะเมืองอยุธยา เขตเทศบาลเมืองพระนครศรีอยุธยา อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศเหนือตามถนนสายเอเซีย ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร
การเปิดตัวประชาคมอาเซียน ซึ่งมีประชากรราว 600 ล้านคนจาก 10 ประเทศทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มและเกิดการโยกย้ายทรัพยากรมนุษย์หรือแรงงาน ทั้งในเชิงรุก กล่าวคือ ประเทศไทยสามารถไปทำธุรกิจ ค้าขาย ลงทุน และท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านได้ และเชิงรับ กล่าวคือ ประเทศเพื่อนบ้านสามารถเข้ามาทำธุรกิจ ค้าขาย ลงทุน และท่องเที่ยวในประเทศได้
การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ด้วยการส่งเสริมแลกเปลี่ยน เรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมในประชาคมอาเซียนที่มีเอกษณ์ วัฒนธรรม และวิถีการดำเนินชีวิตแตกต่างกัน กลายเป็นประเด็นและหัวข้อน่าสนใจขึ้นมาทันที เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของจังหวัดได้เป็นอย่างดี ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคการท่องเที่ยว และภาคพาณิชยกรรม ถือเป็นการเพิ่มโอกาสแก่ผู้นักธุรกิจ นักลงทุน และประกอบการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้สูงขึ้นได้ และนี้ยังไม่รวมโอกาสในภาคอุตสาหกรรมฮาลาลและ Halal tourism ที่ไม่ควรมองข้าม