วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2557

มุสลิมในประเทศไทย


        ตามหลักฐานที่มีอยู่นั้นเห็นได้ว่าศาสนาอิสลามได้เข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ตั้งแต่ศตวรรษที่  11  หรือบางรายงานก็บอกว่าศาสนาอิสลามเข้ามาในศตวรรษที่13 โดยการเผยแพร่ศาสนาในสมัยโบราณนั้นกระทำได้  3  ทางด้วยกัน  คือ  ประการแรก กำลังทหาร  ประการที่สอง    โดยมาทางนักบุญหรือผู้สอนศาสนา และประการสุดท้ายโดยพ่อค้า ซึ่งการเผยแพร่ศาสนาอิสลามเข้ามายังประเทศไทยจะใช้ประการหลังสุดคือการที่พ่อค้านำมาเผยแพร่


          อิสลามแพร่หลายเข้ามาโดยกลุ่มพ่อค้าอาหรับที่นำศาสนาอิสลามเข้ามา โดยพ่อค้าเหล่านั้นจะเข้ามาตั้งหลักแหล่งค้าขายในดินแดนที่ตนมาอยู่จนมีฐานะร่ำรวย แล้วมีความสัมพันธ์กับเจ้าผู้ครองนคร  และในที่สุดเจ้าผู้ครองนครในบริเวณนี้มีความศรัทธาในศาสนาอิสลามและหันมานับถือศาสนาอิสลาม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นท้องถิ่นที่มีวัฒนธรรมอ่อน และมีความเชื่อถือในไสยศาสตร์ด้วย การยอมรับเอาศาสนาอิสลามเข้ามานับถือแทนศาสนาหรือลัทธิความเชื่อเดิมของตนจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
          ดินแดนที่เป็นแหล่งรับวัฒนธรรมด้านศาสนาอิสลามเข้ามาในช่วงแรกๆ ของไทยก็คือบริเวณทางใต้สุดของประเทศไทยได้แก่  ปัตตานี  และหากจะถือเอากรุงสุโขทัย (ราว พ.ศ.1800) เป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ไทยก็ถือได้ว่าศาสนาอิสลามได้เข้ามาในประเทศไทยก่อนหน้าที่จะตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี
          อย่างไรก็ตามไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าปัตตานีตกเป็นของไทยในสมัยใด  แต่ในสมัยสุโขทัยนั้นมีอาณาเขตถึงนครศรีธรรมราชอันเป็นเมืองทางใต้  ส่วนเขตการปกครองของนครศรีธรรมราชนี้ยาวไปถึงแหลมมลายู  สิงคโปร์  มะละกา  ซึ่งการปกครองจะใช้วิธีส่งดอกไม้เงิน  ดอกไม้ทองสามปีต่อครั้ง    ถ้าหากไม่จัดส่งตามกำหนดระยะเวลาทางอาณาจักรใหญ่ก็จะส่งกองทัพไปปราบปรามเมืองขึ้นนั้น

          ปัจจุบันชาวมุสลิมที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยจะมีบรรพบุรุษที่อพยพมาจากหลายแห่ง  ได้แก่
-กลุ่มแรก  พวกที่มีบรรพบุรุษเป็นมลายูหรือมาเลย์ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ที่สุด
-กลุ่มที่สอง  เป็นมุสลิมที่สืบเชื้อสายมาจากเปอร์เซีย
-กลุ่มที่สาม  มีเชื้อสายชวา
-กลุ่มที่สี่     มีเชื้อสายมาจากจาม – เขมร
-กลุ่มที่ห้า   สืบเชื้อสายมาจากเอเชียใต้  จากอินเดีย  ปากีสถาน  บังคลาเทศและอัฟกานิสถาน  และพวกสุดท้าย เป็นมุสลิมที่สืบเชื้อสายมาจากจีน
          ชาวมุสลิมกลุ่มใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเป็นชาวมุสลิมที่สืบเชื้อสายจากมลายูหรือมาเลย์  ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณชายแดนภาคใต้ของไทยในจังหวัดปัตตานี  นราธิวาส  ยะลา  และบางส่วนในจังหวัดสตูลและสงขลา นอกจากนี้ยังอยู่ในภาคอื่นๆ  อาทิเช่น  จังหวัดอยุธยาเป็นจังหวัดที่มีชาวมุสลิมอยู่มากคือประมาณ  160,000  คน  โดยมุสลิมเหล่านั้นได้ถูกกวาดต้อนมาไว้ในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก นอกจากนี้จะมีมากในแถวจังหวัดนครนายก  ฉะเชิงเทราและนนทบุรี  ส่วนในกรุงเทพมหานครไปตั้งรกรากอาศัยอยู่ในที่หลายๆ แห่ง  เช่น  ธนบุรี  สี่แยกบ้านแขก ทุ่งครุ พระประแดง  บางคอแหลม  มหานาค พระโขนง คลองตัน  มีนบุรี  หนองจอก เป็นต้น
         ชาวมุสลิมจากเปอร์เซียที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ไทยได้แก่  ชัยค์(เฉก)   อะห์มัด กูมี (Shieak  Ahmad  Qumi)  ซึ่งเข้ามาประเทศไทยในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ก่อน พ.ศ. 2143) โดยท่านผู้นี้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะฮ์มาเผยแพร่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย  ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม Shieak  Ahmad  Qumi   เจริญรุ่งเรืองในทางราชการในราชสำนักของไทย  ได้รับยศเทียบเท่าเจ้าพระยา  เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพาณิชย์    ช่วยปรับปรุงราชการด้านกรมท่าขวา  และได้เป็นจุฬาราชมนตรี  มีหน้าที่เก็บภาษีสินค้าเข้าออก    ดูแลการเดินเรือระหว่างประเทศและดูแลกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย  ท่านผู้นี้เป็นต้นตระกูลบุนนาค บุณยรัตตพันธ์  ศรีเพ็ญ  สุคนธาภิรมย์  เป็นต้น  ขณะนี้มุสลิมนิกายชีอะห์จากเปอร์เซียจะอยู่กันมากย่านเจริญพาสน์  ฝั่งธนบุรี
          ในสมัยอยุธยานั้นก็มีชาวชวามาตั้งหลักแหล่งอยู่เช่นเดียวกันกับคนกลุ่มอื่น ๆ  ต่อมาชาวชวาเข้ามาไทยอีกในสมัยรัชกาลที่  5  การที่ชาวชวาเข้ามาน่าจะมีสาเหตุมาจากการทำมาหากิน เพราะค่าจ้างในไทยสูงกว่าในชวาถึง  3  เท่า  และในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองชาวชวาถูกญี่ปุ่นเกณฑ์มาสร้างทางรถไฟสายมรณะ  เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม  ชาวชวาก็หนีมาอาศัยอยู่ในไทยไม่ยอมกลับอินโดนีเซีย
         ปัจจุบันในกรุงเทพมหานครจะมีมุสลิมเชื้อสายชวามากรองจากเชื้อสายมาเลย์เท่านั้น โดยตั้งหลักแหล่งอยู่ที่ท้องที่  เขตพระราชวัง ชนะสงคราม  บางขุนพรหม  สามเสน  ดุสิต  นางเลิ้ง  ประแจจีน  บ้านทวาย  สาทร  บางรัก  พาหุรัด  สำราญราษฎร์  เป็นต้น
          กล่าวได้ว่าศาสนาอิสลามเข้ามาสู่ประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคใต้ก่อน  แล้วจึงค่อยๆ ขยายออกมาในภาคกลาง  ภาคเหนือ  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทุกภาคของประเทศไทย  จากคนที่เข้ามาหลายเชื้อชาติ  หลายเผ่าพันธุ์  ทั้งมาเลย์  เปอร์เซีย ชวา  อินเดีย  ปากีสถาน จามและจีน
   
 .............................
ที่มา: รองศาสตราจารย์ดร. จรัล มะลูลีม คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
http://www.dopa.go.th/iad/subject/isalamedu.doc,
http://www.heritage.thaigov.net/religion/others/islam1.htm